วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568

Partnership


ภาครัฐและเอกชน: บทบาทของหน่วยงานสำคัญในธุรกิจเมล็ดพันธุ์


ธุรกิจเมล็ดพันธุ์เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคเกษตร ซึ่งการดำเนินงานในธุรกิจนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทแตกต่างกัน โดยมี กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมและกำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย และมาตรฐานที่กำหนดเพื่อให้มั่นใจว่าเมล็ดพันธุ์ที่จำหน่ายมีคุณภาพดี และตรงตามพันธุ์


กรมวิชาการเกษตร มีบทบาทที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ การกำหนดมาตรฐานคุณภาพเมล็ดพันธุ์ การควบคุมและตรวจสอบการผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ตลอดจนการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 การดำเนินการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ป้องกันการหลอกลวง และส่งเสริมให้ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน


ในระดับนานาชาติ องค์กรระหว่างประเทศ เช่น สมาคมเมล็ดพันธุ์พืชภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิค (APSA) มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ในภูมิภาคเข้าด้วยกัน โดยเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการเจรจาการค้าระดับโลก ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของไทยสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทัดเทียมกับนานาชาติได้


ขณะที่ในภาคเอกชน สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย (THASTA) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสมาชิก และประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและต่างประเทศ สมาคมฯ ยังมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการค้า การจัดฝึกอบรมให้ความรู้ และการคุ้มครองสิทธิ์ของนักปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้ประกอบการและเกษตรกร


การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนจึงเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของประเทศให้แข็งแกร่ง ภาครัฐทำหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพและคุ้มครองเกษตรกร ขณะที่ภาคเอกชนขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างนวัตกรรม ซึ่งการผนึกกำลังกันนี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์เขตร้อนชั้นนำของโลกได้ในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น